ผู้ก่อตั้งศาลเจ้าตระกูลแซ่ซิ้ม

   เมื่อ พ.ศ. 2429 ได้มีหัวหน้าชาวตระกูลซิ้ม 3 ท่าน คือ...

   นายบ้วนเช้ง แซ่ซิ้ม , นายย่งกือ แซ่ซิ้ม และ นายโจหงวน แซ่ซิ้ม ซึ่งศาลเจ้าแซ่ซิ้มสมัยนั้น ตัวอาคารมีเนื้อที่เพียง 20 ตารางวา เท่านั้น แต่นับว่าเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตระกูลอื่นใดทั้งหมด...

   เมื่อเวลาผ่านไป ถึง พ.ศ. 2505 ตัวอาคารก็เริ่มเก่า และชำรุดลง ประกอบกับพี่น้องร่วมตระกูลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น คณะกรรมการในตระกูลแซ่ซิ้ม ได้แก่ นายเทียนฮ้อ แซ่ซิ้ม , นายจี้เซ่ง แซ่ซิ้ม , นายบุ่งเคง แซ่ซิ้ม และนายกุ้ยเอี้ยง แซ่ซิ้ม ได้ร่วมกัน ก่อสร้างศาลเจ้าแซ่ซิ้มขึ้นใหม่ ให้กว้างขวางและงดงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม...

   ผู้ริเริ่มทั้ง 4 คน ได้ปรึกษาหารือกัน และเห็นสมควรว่า จะก่อสร้างศาลเจ้าแซ่ซิ้มขึ้นใหม่ให้กว้างขวางและงดงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะศาลเจ้าหลังเดิมนอกจากจะชำรุดทรุดโทรมทุกวันแล้ว บริเวณศาลเจ้ายังคับแคบไม่พอเพียงแก่ลูกหลานชาวตระกูลแซ่ซิ้ม และประชาชนอื่นทั่วไปที่เข้ามาทำพิธีกรรม กราบไหว้บูชา คณะกรรมการผู้ริเริ่มทั้ง 4 คน ต่างมีความเห็นพร้อมต้องกันว่า ควรจะก่อสร้างอาคารศาลเจ้าหลังใหม่ขึ้น

   หลังจากได้มีการปรึกษาหารือวางแผนกันหลายครั้งแล้ว คณะกรรมการผู้ริเริ่มทั้ง 4 คน ก็ได้ไปขอความเห็นจากผู้ร่วมตระกูลแซ่ซิ้มอีกหลายท่าน ปรากฏว่าได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดี ยังผลให้คณะกรรมการผู้ริเริ่มมีกำลังใจในการทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้การก่อสร้างดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย ชาวตระกูลแซ่ซิ้มได้จัดให้มีการประชุมขึ้น เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการควบคุมการก่อสร้าง และมีผู้ที่เป็นคณะกรรมการควบคุมการก่อสร้างดังนี้ คือ
1. นาย เทียนท้อ แซ่ซิ้ม ประธานกรรมการ
2. นาย ชนะ สิมะชาติ รองประธานกรรมการ
3. นาย กลิ่น ศิริสมบัติยืนยง รองประธานกรรมการ
4. นาย เต็กเม่งฮวด แซ่ซิ้ม กรรมการเหรัญญิก
5. นาย วิบูลย์ สินประสงค์ กรรมการรองเหรัญญิก
6. นาย กวงตง แซ่ซิ้ม กรรมการเลขานุการ
7. นาย กิมกุ่ง แซ่ซิ้ม กรรมการรองเลขานุการ
8. นาย ไฮง้วน แซ่ซิ้ม กรรมการ
9. นาย เลี่ยงเฮง แซ่ซิ้ม กรรมการ
10. นาย บูหั่ง แซ่ซิ้ม กรรมการ
11. นาย ซงซัว แซ่ซิ้ม กรรมการ
12. นาย โอวเจีย แซ่ซิ้ม กรรมการปฏิคม
13. นาย ชุนเป้ง แซ่ซิ้ม กรรมการรองปฏิคม
14. นาย กิมกวง แซ่ซิ้ม กรรมการควบคุมทั่วไป
15. นาย ประชา สิมะชาติ กรรมการตรวจสอบบัญชีการเงิน
16. นาย คุนกี่ แซ่ซิ้ม กรรมการตรวจสอบบัญชีการเงิน